รู้ก่อน! “แก้จมูก” ทำไมต้องแก้ ราคาเท่าไหร่ เตรียมพร้อมก่อนทำจมูกใหม่

มีปัญหาเรื่องจมูก แก้จมูกที่ไหนดี? เมื่อจมูกที่พึ่งเสริมมาเริ่มมีปัญหาไม่ว่าจะเรื่องซิลิโคนเสี่ยงทะลุ ปลายจมูกบาง จมูกเบี้ยว จมูกอักเสบ จมูกไม่ได้รูปทรงที่ต้องการ หรือปัญหาจมูกตั้งแต่กำเนิด ดังนั้นการเลือกสถานที่แก้จมูกและความรู้เบื้องต้นก่อนแก้จมูกจึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้ Medmetic จะหยิบยกข้อควรรู้ก่อน “แก้จมูก” ทั้งแก้จมูกบาน แก้จมูกชมพู่ แก้จมูกใหญ่ แก้ปีกจมูก รวมถึงแก้จมูกราคาเท่าไร เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจแก้จมูก และเตรียมพร้อมก่อนทำจมูกใหม่ มาดูไปพร้อมกันเลยค่ะ!
แก้จมูก

รีวิวแก้จมูก Before-After พร้อมรองปลายเนื้อเยื่อก้นกบ by MEDMETIC
แก้จมูกที่ไหนดีที่มีหมอแก้จมูกเก่ง ๆ ? ปัญหาแก้จมูกเป็นหนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยหลังเสริมจมูกค่ะ ทั้งทำมาแล้วไม่ถูกใจ หรือมีปัญหาจมูกอักเสบ เสี่ยงทะลุต่าง ๆ โดยปัญหาส่วนใหญ่ของเคสแก้จมูกมาจากคุณหมอที่เสริมจมูกมีประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญไม่มากพอ รวมถึงขาดการดูแลตัวเองหลังเสริมจมูกก็มีส่วนนะคะ ส่งผลให้มีปัญหาหลาย ๆ อย่างตามมา ทั้งปลายจมูกบาง จมูกติดเชื้อ จมูกเบี้ยว เป็นต้น ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาจมูกมีดังนี้
- การเสริมซิลิโคนที่มีขนาดไม่พอดีกับจมูก เช่น ซิลิโคนยาวเกินไป หรือเสริมซิลิโคนกับผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อย
- ไม่ได้วางซิลิโคนไว้ใต้ชั้นเยื่อหุ้มกระดูก ทำให้ซิลิโคนเคลื่อนได้ง่ายหรือที่เรียกว่า “ซิลิโคนลอย”
- เลือกใช้ซิลิโคนสำเร็จรูป ไม่ได้เหลาให้เข้ากับรูปทรงจมูกคนไข้ อาจทำให้ได้รูปทรงจมูกที่ไม่น่าพึงพอใจ
- ผู้ที่มีฐานจมูกเอียงแต่เดิมไม่ได้รับการแก้ไขโครงสร้างให้ดี ทำให้รูปทรงจมูกเบี้ยว
ปัจจุบันวิธีเสริมจมูกหรือแก้ไขทรงจมูกเดิมมักนิยมใช้เทคนิคแบบเปิด (Open Rhinoplasty) หรือแก้จมูกโอเพ่นในการปรับโครงสร้างจมูกค่ะ เนื่องจากเป็นเทคนิคที่ช่วยปรับโครงสร้างจมูกได้ดีกว่า ได้ทรงจมูกสวยตามต้องการ และมักไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้
สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมแบบละเอียด ๆ เกี่ยวกับการเสริมจมูกแบบโอเพ่นได้ที่: เสริมจมูกแบบโอเพ่น
ทรงจมูก อาการแบบไหนที่ต้องแก้จมูก
จมูกทะลุ ปลายจมูกบาง
อาการปลายจมูกบางถือเป็นจุดเริ่มต้นของสัญญาณจมูกใกล้ทะลุ หลายคนมักสอบถามเข้ามาว่า “จมูกทะลุแก้ได้ไหม?” ในเบื้องต้นทาง Medmetic แนะนำให้เข้าพบแพทย์ทันทีนะคะ เพื่อประเมินอาการว่ามีการอักเสบมากน้อยแค่ไหน ถ้าในกรณีจมูกไม่มีอาการอักเสบหรือติดเชื้อ ก็สามารถวางแผนแก้จมูกได้เลยค่ะ แต่ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมินอีกทีด้วยค่ะ
– อาการ: โดยส่วนมากอาการจมูกทะลุมักสังเกตได้จากผิวที่ปลายจมูกบาง มีความมันวาว สะท้อนแสงมากกว่าปกติ หรือปลายจมูกมีสีที่ผิดปกติไปจากเดิม เช่น สีแดงเข้ม ขาวซีด หรือดำคล้ำ นอกจากนี้หากใช้มือลูบที่ปลายจมูกจะรู้สึกเสียว รวมถึงจมูกเริ่มมีร่องหรือรอยบุ๋ม ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าจมูกกำลังจะทะลุได้
– สาเหตุ: ส่วนใหญ่ปัญหาจมูกทะลุ หรือปลายจมูกบางมักมีสาเหตุมาจากการใส่ซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม เช่น ยาวเกินไป หนาเกินไป หรือแหลมเกินไป ยิ่งเป็นคนมีเนื้อจมูกน้อยก็ยิ่งเสี่ยงเกิดปัญหาจมูกทะลุค่ะ รวมถึงสาเหตุมาจากการอักเสบและการติดเชื้อหลังเสริมจมูก
– เทคนิคการแก้ไข: การแก้ปลายจมูกในกรณีที่ช่วงปลายจมูกยังแดง แพทย์จะทำการผ่าตัดนำซิลิโคนเดิมออกก่อนเพื่อให้คนไข้พักฟื้นและปรับสภาพของเนื้อจมูกประมาณ 3-6 เดือน จากนั้นจึงจะทำการผ่าตัดแก้จมูกโดยวิธีผ่าตัดแบบปิดหรือเปิดได้แล้วแต่เคส อาจลดความยาวของซิลิโคน ร่วมกับการนำกระดูกอ่อนหลังหู หรือเนื้อเยื่อก้นกบมารองบริเวณปลายจมูกเพื่อเพิ่มความหนา ลดความเสี่ยงจมูกทะลุ
จมูกอักเสบ / จมูกติดเชื้อ
การติดเชื้อเป็นหนึ่งในผลข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังจากการผ่าตัดทุกประเภท รวมถึงการเสริมจมูกแบบปิด และเสริมจมูกแบบเปิดด้วยเช่นกัน ถ้าพบว่าจมูกเริ่มมีลักษณะผิดปกติ หรือมีอาการที่แปลกไปควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อแก้จมูกทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นะคะ
– อาการ: หากจมูกติดเชื้อไม่รุนแรงมักมีอาการบวม ๆ ยุบ ๆ แต่ถ้าเริ่มมีการติดเชื้อมากขึ้นเรื่อย ๆ จมูกจะเริ่มมีน้ำเหลืองหรือเลือดไหลออกจากด้านในจมูก ร่วมกับอาการปวด บวมแดง จนอาจนำไปสู่สีผิวหนังจมูกกลายเป็นสีดำ ซิลิโคนกินเนื้อจมูกทำให้จมูกเน่า จมูกทะลุได้ จำเป็นต้องแก้จมูกทันทีค่ะ
– สาเหตุ: สามารถเกิดได้หลายปัจจัย เช่น ขาดการดูแลตนเองหลังผ่าตัด รับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อน การสัมผัสบริเวณแผลบ่อย ๆ หรือเกิดการกระทบกระเทือนบริเวณแผลอย่างรุนแรง รวมไปถึงเกิดจากร่างกายปฏิเสธซิลิโคนหากใช้ซิลิโคนไม่ได้มาตรฐาน แต่ในกรณีนี้มีโอกาสเกิดได้น้อยมาก
– เทคนิคการแก้ไข: ถ้าหากเกิดปัญหาจมูกอักเสบ หรือติดเชื้อควรรักษาให้หายก่อนประมาณ 3-6 เดือน จึงจะสามารถแก้จมูก หรือเสริมซิลิโคนแท่งใหม่ได้นะคะ
จมูกเบี้ยว / จมูกเอียง
ปัญหาซิลิโคนเบี้ยว หรือซิลิโคนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ การแก้จมูกเบี้ยว หรือเอียงที่ดีที่สุดคือเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์โครงหน้าใบหน้าและจมูก เพื่อแก้ไขได้อย่างตรงจุด
– อาการ: จะเริ่มสังเกตเห็นได้ว่าซิลิโคนที่เสริมมาเริ่มมีการเบี้ยว หรือเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งจากกึ่งกลางริมฝีปากบน หากวัดจากระหว่างคิ้ว หัวตา ปลายจมูก
– สาเหตุ: มักมาจากฐานจมูกเดิมมีความคดเอียงอยู่ก่อนแล้ว หรือการใช้ซิลิโคนที่ยาวเกินความพอดีกับรูปจมูกคนไข้ ทำให้ซิลิโคนเอียง ในบางรายอาจถึงขั้นจมูกทะลุได้ค่ะ รวมถึงการวางซิลิโคนผิดตำแหน่งก็เป็นหนึ่งในสาเหตุจมูกเบี้ยวและเอียงได้ง่าย
– เทคนิคการแก้ไข: การแก้จมูกเบี้ยวควรใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบเปิด เพื่อปรับโครงสร้างใหม่ เช่น ตอกฮัมพ์ แก้จมูกคด หรือปรับจมูกสั้นให้ยาวขึ้น รวมถึงนำซิลิโคนเก่าและเลาะพังผืดออก จากนั้นจึงค่อยนำซิลิโคนที่ออกแบบใหม่ใส่กลับเข้าไป
จมูกผิดรูปเพราะฉีดซิลิโคนเหลว ฉีดฟิลเลอร์จมูก
การฉีดฟิลเลอร์ปลอม ซิลิโคนเหลว หรือสารเหลวอื่น ๆ ที่จมูก ในช่วงแรกอาจได้ทรงจมูกที่สวย ทรงจมูกธรรมชาติ แต่นานไปสารเหลวเหล่านี้จะไหลไปรวมกันอยู่ที่บริเวณใดบริเวณหนึ่ง ส่งผลให้จมูกเสียทรงในที่สุด
– อาการ: เมื่อฉีดสารแปลกปลอมเข้าไปในจมูกแล้ว ผิวหนังจะกลายเป็นก้อนแข็ง เกิดพังผืด บวมผิดรูป อักเสบและติดเชื้อ
– สาเหตุ: มาจากผิวหนังในร่างกาย หรือจมูกเกิดปฏิกิริยาต่อต้านสิ่งแปลกปลอมจากสารที่ฉีดเข้าไป เช่น ซิลิโคน สารเหลว ฟิลเลอร์ปลอม น้ำมันมะกอก น้ำมันพืชบางชนิด เป็นต้น
– เทคนิคการแก้ไข: แพทย์จะต้องทำการประเมินความรุนแรงก่อนแก้จมูกค่ะว่า มีการฉีดสารไปมากน้อยเพียงใด จากนั้นจึงทำการผ่าตัดขูดเลาะเอาสารเหลวออกมา โดยในขั้นตอนนี้จะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์สูง เนื่องจากต้องระวังไม่ให้กระทบกับเส้นเลือด หรือเส้นประสาท รวมทั้งต้องระวังไม่ให้ทำลายเนื้อเยื่อภายในผิวหนังบริเวณจมูก
ซิลิโคนลอย
อาการซิลิโคนลอยสามารถเกิดขึ้นได้หลังจากที่เสริมจมูกไปแล้ว หากซิลิโคนไม่มีลักษณะแหลมทิ่มออกมา มีเพียงแค่อาการซิลิโคนลอยอาจไม่ต้องแก้ไขทันที แต่โดยส่วนมากคนไข้มักจะมีความรู้สึกไม่มั่นใจ และต้องการแก้จมูกใหม่
– อาการ: ซิลิโคนไม่แนบติดกับจมูก โดยคนไข้จะรู้สึกได้ว่าซิลิโคนเลื่อนหรือเคลื่อนไปตามนิ้วที่แตะจมูก
– สาเหตุ: อาการซิลิโคนลอยสามารถเกิดได้จาก 2 สาเหตุปัจจัยคือ ซิลิโคนลอยจากตัวคนไข้เอง เช่น การบิดจมูกรุนแรง หรือประสบอุบัติเหตุ และซิลิโคนลอยจากการผ่าตัดของแพทย์ เช่น มีการวางซิลิโคนไม่ครอบแกนจมูก หรือไม่วางซิลิโคนใต้เยื่อหุ้มกระดูก รวมถึงการเหลาซิลิโคนที่ไม่พอดีของแพทย์
– เทคนิคการแก้ไข: จะต้องดูที่สาเหตุก่อนค่ะว่าเกิดจากอะไร เพื่อคุณหมอจะแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด เช่น หากวางซิลิโคนผิดที่ ก็จะต้องทำการผ่าตัดเพื่อเอาซิลิโคนเก่าออก จากนั้นจึงใส่ซิลิโคนใหม่เข้าไปบริเวณใต้เยื่อหุ้มจมูกเพื่อป้องกันซิลิโคนเคลื่อน แต่ถ้าหากมีฮัมพ์มากจนเป็นสาเหตุให้ซิลิโคนลอย ก็จะต้องแก้ไขโดยการตะไบ ตอกฐานจมูก เพื่อให้เสริมซิลิโคนได้ง่ายขึ้น เป็นต้นค่ะ
รูจมูกผิดรูป
ปัญหารูจมูกผิดรูปเป็นหนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ที่ต้องการแก้จมูก ซึ่งวิธีการแก้จมูกผิดรูปที่ดีที่สุดคือ การเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ก่อน เพื่อวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าและแก้จมูกได้อย่างตรงจุด
– อาการ: รูจมูกหรือโพรงจมูกมีขนาดไม่เท่ากัน หรือมีลักษณะเบี้ยวไปทางฝั่งซ้ายหรือขวา นอกจากนี้รูจมูกผิดรูปยังส่งผลให้เกิดปัญหาทางด้านการหายใจตามมาอีกด้วย เช่น ไซนัส หนองอักเสบในโพรงจมูก
– สาเหตุ: สามารถแบ่งได้เป็นหลายสาเหตุ เช่น จมูกเบี้ยวตั้งแต่เกิด เกิดจากแพทย์ใช้ซิลิโคนไม่พอดีกับรูปจมูกคนไข้ หรือเกิดจากอุบัติเหตุ เป็นต้น
– เทคนิคการแก้ไข: สามารถแก้ไขด้วยเทคนิคแบบโอเพ่น เพื่อปรับทรงให้รูจมูกมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น
จมูกไม่ได้ทรงที่ต้องการ
ผู้ที่มีปัญหาโครงสร้างจมูก หรือจมูกไม่ได้ทรงที่ต้องการ เช่น ผนังกั้นห้องจมูกคดแต่กำเนิด ฮัมพ์สูง ปลายจมูกงุ้ม ปลายจมูกหนามาก ปลายจมูกสั้น การแก้จมูกด้วยเทคนิคแบบเปิดจะช่วยแก้ไขปัญหาโครงสร้างจมูกโดยตรง ทั้งแก้ปลายจมูกใหญ่ แก้จมูกชมพู่ แก้จมูกเบี้ยว เป็นต้น
เทคนิคแก้จมูกแบบเปิดเป็นอย่างไร?
การแก้จมูกแบบเปิด หรือแก้จมูกโอเพ่นคือ การเปิดจมูกเข้าไปแก้ไขโครงสร้างข้างในโดยตรง ซึ่งรวมทั้งการตอกฐาน ยืดผนังกั้นจมูก การเย็บแบบอินเตอร์โดม ลดขนาดปลาย เป็นต้น โดยวิธีการแก้จมูกแบบโอเพ่นนี้จะทำให้แพทย์เห็นโครงสร้างจมูกอย่างชัดเจน สามารถแก้ไขความผิดปกติต่าง ๆ ได้ทุกปัญหาเลยค่ะ รวมถึงสามารถทำความสะอาดโครงสร้างภายในจมูกได้ด้วย เช่น เลาะพังผืดออก เลาะเส้นไหมสำหรับคนที่เคยร้อยไหมจมูก ขูดฟิลเลอร์ออกจากจมูก
เทคนิคการแก้จมูกโอเพ่นนี้มักใช้กระดูกอ่อนจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อนำมาเสริมโครงสร้างจมูกใหม่ ได้แก่ กระดูกอ่อนหลังหู กระดูกอ่อนแกนจมูก และกระดูกอ่อนซี่โครงที่จะช่วยป้องกันการทะลุ แถมยังช่วยยืดปลายจมูกให้พุ่ง สวยปังกว่าเดิม
แก้จมูกที่ไหนดี? สำหรับเคสที่เคยใช้กระดูกอ่อนหลังหูเสริมจมูกมาแล้ว และต้องการแก้จมูก ที่ Medmetic แพทย์จะไม่แนะนำให้ผ่าตัดเอากระดูกหลังหูที่เคยเสริมออกมา ถ้าหากไม่มีปัญหาที่เกิดจากกระดูกอ่อนหลังหู หรือกระดูกอ่อนหลังหูนั้นถูกเชื่อมติดเป็นเนื้อเดียวกันกับเนื้อจมูกของเราแล้ว โดยแพทย์จะศัลยกรรมแก้ไขเพียงในส่วนของซิลิโคน แต่ถ้าหากมีปัญหาจากกระดูกอ่อนหลังหูที่เคยเสริมมา แพทย์จะพิจารณาวางแผนเลือกการผ่าตัดที่เหมาะสมเป็นรายบุคคลไป ทั้งนี้ก่อนเข้ารับการแก้จมูก คนไข้ควรเข้ารับการประเมินจากแพทย์ก่อนนะคะ เพื่อผลลัพธ์หลังแก้จมูกที่ดีที่สุดค่ะ!
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจแก้จมูก
การแก้จมูกหลังเสริมจมูกมาแล้วมักมีความยุ่งยาก และซับซ้อนกว่าการเสริมจมูกครั้งแรกเสมอ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนอีก เรามาดูข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจแก้จมูกกันค่ะ
– การแก้จมูกจำเป็นต้องวางแผนการรักษากับแพทย์อย่างรอบคอบ เพราะจะทำให้ผลลัพธ์หลังแก้จมูกเป็นไปอย่างที่เราคาดหวัง ไม่ต้องเสียเวลาแก้หลายรอบ
– การแก้จมูกจำเป็นต้องเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญการสูง เพื่อลดการเกิดปัญหาเดิม ๆ และไม่ให้เกิดปัญหาใหม่เพิ่มขึ้นอีก และถ้าหากเลือกทำกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญอาจทำให้ผลลัพธ์การแก้จมูกแย่ลง
– ก่อนแก้จมูก ต้องรักษาอาการติดเชื้อหรืออักเสบให้หายดีก่อน โดยต้องทำการผ่าตัดนำเอาซิลิโคนออก และรับประทานยาร่วมกับฉีดยาปฏิชีวนะ จากนั้นพักจมูก 3-6 เดือนจึงสามารถเสริมซิลิโคน หรือแก้จมูกใหม่ได้
– การแก้จมูกมักจะมีราคาที่สูงกว่า การทำจมูกครั้งแรก เนื่องจากมีขั้นตอนการรักษาที่ซับซ้อนกว่า ยากกว่า และนานกว่าการเสริมจมูก เช่น แพทย์จะต้องเลาะพังผืดของซิลิโคนเก่าออกให้หมด และต้องทำความสะอาดบริเวณช่องจมูกใหม่เพื่อให้จมูกสะอาด พร้อมสำหรับการนำซิลิโคนอันใหม่ใส่เข้าไปค่ะ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาแก้จมูกมีราคาที่สูงมากกว่า
– อย่าลืม!! วางแผนพักฟื้นหลังแก้จมูก โดยปกติแล้วหลังแก้จมูกคนไข้จะต้องพักฟื้นประมาณ 2-3 วัน รวมถึงอาจมีอาการบวมประมาณ 2 สัปดาห์ ดังนั้นใครที่มีแพลนแก้จมูกอย่าลืมวางแผนพักฟื้นกันด้วยนะคะ
ค่าใช้จ่ายแก้จมูก ราคาเท่าไหร่
แก้จมูกราคาไม่แพงเริ่มต้นเท่าไร? สำหรับราคาแก้จมูกจะมีราคาเริ่มต้นต่างกันในแต่ละคลินิก โดยมีรายละเอียดดังนี้
รายการ | ราคาเริ่มต้น (บาท) |
แก้จมูก ซิลิโคนมาตรฐาน | 29,900 |
ถอดซิลิโคนจมูก | 15,000 |
ขูดจมูกที่ฉีดซิลิโคน | 20,000 |
ขูดฟิลเลอร์ที่จมูก | 20,000 |
คลิกอ่านบทความทำจมูก ราคาเท่าไร? ได้ที่: ทำจมูกราคา
เตรียมความพร้อมก่อนแก้จมูก
การเตรียมความพร้อมก่อนการผ่าตัดแก้จมูกเป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญ เพราะจะช่วยให้ระหว่างการผ่าตัดเป็นไปได้อย่างราบรื่น ดังนั้นจึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดนะคะ โดยขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนแก้จมูกมีรายละเอียดดังนี้
- ก่อนเข้ารับการผ่าตัดแก้จมูกควรแจ้งโรคประจำตัว ยาที่แพ้ และยาที่ทานประจำให้แพทย์ทราบ
- งดรับประทานยาแอสไพริน NSAIDs เช่น Ibuprofen, Diclofenac, Ponstan รวมถึงงดวิตามิน และอาหารเสริมที่ทานอยู่เป็นประจำ ก่อนการผ่าตัดแก้จมูก 1 สัปดาห์ เพราะอาจทำให้เลือดแข็งตัวช้ากว่าปกติ
- งดสูบบุหรี่ และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนการผ่าตัด 1 สัปดาห์ เพราะอาจส่งผลให้แผลนูนหรือเป็นคีลอยด์ได้
- ในวันผ่าตัดควรสวมเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย และงดการแต่งหน้า ทาเล็บ
- ก่อนผ่าตัดแก้จมูกควรงดดื่มน้ำ และอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการสำลักอาหารในระหว่างการผ่าตัด
ขั้นตอนการแก้จมูก

ขั้นตอนการแก้จมูกมีรายละเอียดดังนี้ค่ะ
1.แพทย์จะเริ่มให้ยาชา หรือยานอนหลับ หรือยาชาร่วมกับยากล่อมประสาท โดยจะประเมินจากความซับซ้อนหรือเทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัดแก้จมูก
2.ระหว่างการผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปัญหาที่เราต้องการแก้ไข และเทคนิคที่แพทย์เลือกใช้ เช่น การตอกฐานบีบจมูก การยืดผนังกั้นจมูก หรือแก้ไขจมูกคด อาจจะต้องใช้เวลาผ่าตัดแก้จมูกนานขึ้นเล็กน้อย
3.หลังจากนั้นแพทย์จะทำการเย็บปิดแผลผ่าตัดแก้จมูก เมื่อเสร็จสิ้นการผ่าตัดคนไข้อาจมีอาการง่วงซึม ไม่ควรกลับบ้านคนเดียว ควรมีคนดูแลมาด้วย
4.แพทย์จะนัดมาติดตามผล ดูอาการหลังแก้จมูก เมื่อผ่านไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์
วิธีดูแลตนเองหลังแก้จมูก
วิธีดูแลตัวเองหลังแก้จมูกเป็นขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้ขั้นตอนเตรียมตัวเลยค่ะ ถ้าหากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยลดความเสี่ยงหลังการแก้จมูกได้ เช่น ลดการติดเชื้อ อาการบวม ช้ำ เป็นต้น
- หลังแก้จมูกในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก ให้ประคบเย็นบริเวณข้างแก้ม และหน้าผาก เพื่อลดอาการบวม โดยใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือแผ่นเจลประคบเอาไว้
- งดนอนคว่ำในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังแก้จมูก ควรนอนยกศีรษะสูงประมาณ 30 องศา ไม่ควรนอนตะแคง หรือนอนคว่ำหน้า
- ควรทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการใช้สำลีชุบน้ำสะอาด หรือน้ำเกลือ เช็ดอย่างเบามือบริเวณแผล ห้ามให้แผลโดนน้ำ และงดการแต่งหน้า เพราะอาจเสี่ยงติดเชื้อได้
- รับประทานยาและปฏิบัติตัวตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- งดรับประทานอาหารรสจัด รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังแก้จมูก
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่ทำให้เกิดการสะเทือนที่ใบหน้าและร่างกาย ประมาณ 1 เดือน
- พบแพทย์เพื่อติดตามผลหลังแก้จมูกอย่างสม่ำเสมอ
แก้จมูกที่ไหนดี ?

รีวิวแก้จมูก Before-After พร้อมรองปลายเนื้อเยื่อก้นกบ+ตะไบฮัมพ์+ตกแต่งปีกจมูก+ตอกฐาน by MEDMETIC
แก้จมูกหมอไหนดีคะ? การเลือกสถานที่แก้จมูกที่ไหนดีทั้งแก้จมูกผู้หญิง และแก้จมูกผู้ชาย เราควรเลือกอย่างรอบคอบ คลินิกจะต้องเปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ได้รับการรับรองโดยแพทยสภา มีทีมศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ มีห้องผ่าตัดและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานสากล รวมถึงต้องมีวิสัญญีแพทย์เป็นผู้วางยาสลบ เป็นต้นค่ะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาคลินิกแก้จมูกที่ไหนดีราคาไม่แพง ที่ Medmetic by Meko เป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานสากล นำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย นั่นคือ นพ. มนัส ฉายาวิจิตรศิลป์ เราเลือกใช้ซิลิโคนอเมริกาแบบ Medical Grade Silicone ซึ่งเป็นวัสดุทางการแพทย์ สามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต อีกทั้งยังมีเทคนิคการแก้จมูกด้วยเทคนิคพิเศษแก้จมูกใหญ่แบบธรรมชาติ แบบฉบับของ นพ. มนัส ฉายาวิจิตรศิลป์ ดังนี้ค่ะ
– Medmetic มีเครื่องมือเลาะพังผืด และขูดฟิลเลอร์แบบพิเศษที่คิดค้นโดย นพ. มนัส ฉายาวิจิตรศิลป์ สามารถช่วยลดอาการบวม ช้ำ
– ศัลยแพทย์จะเหลาซิลิโคนตามรูปหน้าและบุคลิกของแต่ละบุคคล (ไม่ใช้ซิลิโคนสำเร็จรูป) ด้วยเทคนิคการเหลาแบบพิเศษจะสามารถลดแรงดันที่ปลายจมูก และลดความเสี่ยงการทะลุของซิลิโคนได้
– เทคนิคการแก้จมูกของทาง Medmetic แพทย์จะเสริมซิลิโคนเข้าไปในชั้นเนื้อเยื่อที่ถูกต้อง ลดอาการเบี้ยวเอียง และการเคลื่อนไหลของซิลิโคน
– เชี่ยวชาญทุกทรงจมูกไอดอล ทั้ง จมูกทรงสโลปปลายพุ่ง จมูกทรงหยดน้ำ จมูกทรงบาร์บี้ เป็นต้น
รีวิวแก้จมูก by Medmetic

รีวิวแก้จมูก Before-After พร้อมรองปลายเนื้อเยื่อก้นกบ by MEDMETIC
แก้จมูกที่ไหนดีราคาไม่แพงกับ Medmetic รีวิวแก้จมูกจากเคสผู้ใช้บริการจริง ด้วยเทคนิคการแก้ทรงจมูกเกาหลีแบบฉบับ นพ. มนัส ฉายาวิจิตรศิลป์ จากรีวิวจะเห็นได้ว่าผลงานหลังแก้จมูกกับทาง Medmetic ทรงจมูกมีความเข้ารูปมากขึ้น ผลลัพธ์หลังแก้ดีขึ้นค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
แก้จมูก เสริมจมูกห้ามกินอะไรบ้าง ?
หลังแก้จมูก เสริมจมูกควรงดรับประทานอาหารบางชนิดอย่างน้อย 1 เดือน เช่น งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารรสจัด ของหมักดอง อาหารดิบ ๆ เป็นต้น เพราะอาจส่งผลทำให้แผลหายช้า หรือมีอาการบวมช้ำมากขึ้นได้นะคะ
ทำไมแก้จมูกถึงแพงกว่า ?
เนื่องจากการแก้จมูกมีขั้นตอนการรักษาที่ยากและซับซ้อนกว่าการเสริมจมูกครั้งแรก โดยปัญหาที่มักพบเจอในเคสแก้คือ แพทย์ต้องเลาะพังผืดที่สะสมมานาน ต้องขูดฟิลเลอร์หรือสารเหลวออกจากจมูก ต้องเลาะเส้นไหมสำหรับคนที่เคยร้อยไหมจมูกมา เป็นต้นค่ะ ทำให้แพทย์จำเป็นต้องนำสิ่งแปลกปลอมออกจากจมูกให้หมดเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยทำความสะอาดโครงสร้างภายในจมูกเพื่อพร้อมสำหรับการใส่ซิลิโคนอันใหม่ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ส่งผลให้งานแก้จมูกมีราคาแพงกว่าการแก้ไขจมูกค่ะ
งานแก้จมูกเจ็บไหม ?
หากแก้จมูกด้วยเทคนิคแบบเปิด หรือแก้จมูกโอเพ่นคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บเลย เนื่องจากจะมีการใช้ยาชาและยาสลบในระหว่างการผ่าตัดค่ะ แต่ในกรณีที่จมูกของคนไข้มีการอักเสบ หรือติดเชื้ออาจจะต้องถอดซิลิโคนออกก่อนเพื่อพักจมูกประมาณ 3-6 เดือน จากนั้นจึงค่อยแก้จมูกใหม่นะคะ
สรุป
การแก้จมูกถือว่ามีขั้นตอนที่ยาก และซับซ้อนกว่าการเสริมจมูกใหม่ ดังนั้นการเลือกคลินิกแก้จมูกโอเพ่นที่ไหนดี และแก้จมูกที่ไหนดีราคาไม่แพง ควรศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่นั้น ๆ ให้รอบคอบ รวมถึงเข้าปรึกษากับแพทย์ก่อนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังแก้จมูกออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจมากที่สุด ลดโอกาสทั้งการเจ็บตัว เสียเงิน และเสียเวลาด้วยค่ะ
สำหรับใครที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรืออยากสอบถามเกี่ยวกับการแก้จมูก ทาง Medmetic ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ สามารถติดต่อได้ตามช่องทางต่อไปนี้
- โทร. +66 (0) 2-114-3000
- Line: @medmetic
Facebook: Medmetic by Meko เมดเมติก บาย เมโกะ
reference
Rhinoplasty. (2021, March 02). Mayo Clinic. https://www.mayoclinic.org/tests-procedures/rhinoplasty/about/pac-20384532